รวยด้วยตะไคร้ ใคร ๆ ก็ทำได้
20Jun,17
สวัสดีครับพี่น้องชาวฟาร์มไทยแลนด์ทุกคน สำหรับวันนี้ผมมีอีกนึ่งวิถีทางแห่งการเป็นเกษตรรายได้สูงมาฝากกันอีกแล้ว สำหรับตะไคร้นี้ผมเชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จัก (เอ๊ะหรือว่าจะมี) เอาเป็นว่าไม่มีเกษตรกรคนไหนไม่รู้จักละกันเนอะ เป็นเป็นพืชที่อยู่คู่กับครัวไทยกันมานานนม ซึ่งอาหารไทยส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่ใช้เจ้าตะไคร้เป็นส่วนประกอบ แล้วยังไง??
ในเมื่อมันขาดไม่ได้แล้วแหล่งผลิตของเจ้าตะไคร้นี้มาจากไหน นั่นสิครับในเมื่อเรากินเราใช้กันอยู่ทุกวันทำไมเราไม่ปลูกขายเป็นพืชทำเงินซะเลยละครับ(ความคิดดีนะเนี้ย) ที่สำคัญเจ้าตะไคร้นี้เป็นพืชที่แสนจะปลูกได้ง่าย ใครก็ปลูกได้ (แล้วใครจะมาซื้อ) ก็คุณผู้อ่าน และผมอีกคนหนึ่งนี่ละครับที่เป็นคนซื้อฟันธง!!
คุ้มหรือไม่กับการปลูกตระไคร้ขาย?? สำหรับราคาตระไคร้ ณ วันนี้ตกราวๆกิโลกรัมระ 15-30 บาท แล้วแต่เกรด ในหนึ่งไร่สามารถให้ผลผลิตได้สูง 1-3 ตันในการเก็บเกี่ยวทั้งหมด ซึ่งแล้วแต่วิธีการเก็บ ใช้เวลาตั้งแต่การปลูกจนถึงเก็บขาย ประมาณ 6 เดือน ปีหนึ่งสามารถทำได้ 2 ครั้ง คิดเป็นเงินแบบต่ำสุดเลยก็ราวๆ 30,000บาท/ปี/ไร่ (15บาท*1000กิโลกรัม*2ครั้งต่อปี) ซึ่งถือว่าทำกำไรต่อไร่ได้ดีไม่น้อยครับ คุ้มปะละ
แล้วจะปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตสูงๆ
1. เลือกพันธุ์ที่ดี สำหรับตระไครในบ้านเราที่นิยมปลูกกันมีอยู่ 2 สายพันธุ์ นั่นก็คือพันธุ์พื้นบ้าน และก็พันธุ์เกษตร ซึ่งผมแนะนำให้ปลูกพันธุ์เกษตรเพราะให้ผลผลิตที่สูงกว่า ลำต้นใหญ่กว่าพันธุ์พื้นบ้าน(แต่ราคาเท่ากันยังต้องเลือกอีกเหรอ)
2. ตัดใบ(เพื่อลดการคลายน้ำ)และรากของตะไคร้ออก เพื่อเตรียมการปลูก เกษตรกรสามารถที่จะนำต้นตระไคร้แช่น้ำไว้สัก 5 วันก่อนการปลูกเพื่อให้มั่นใจว่าตะไคร้มีรากงอกออกมานั้นแปลว่าปลูกได้ 100 เปอร์เซ็นต์
3. การเตรียมดิน ทำการไถพรวนดินสัก 2 รอบ ยกร่องได้จะดีมากโรยปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน ทิ้งไว้ 5- 7วัน ก่อนทำการปลูก
4. ขุดหลุมสำหรับปลูกต้นตะไคร้ขนาด 25 X25 เซ็นติเมตร(2จอบ) ลึก 25 เซ็นติเมตร นำปุยคอกผสมกับดินคลุกให้เข้ากันปักต้นพันธุ์ตะไคร้ลงดินให้มีลักษณะเอียง 45 องศา ลึก 5 เซนติเมตร จำนวนหลุมละ 2 ต้น
5. รดน้ำในช่วงแรกๆ 2-3 วันต่อครั้ง หลังจากตะไครเริ่มงามแล้ว สัปดาห์ละครั้งก็พอครับ แนะนำให้ทำเป็นระบบให้น้ำผ่านทางท่อเพื่อลดการใช้แรงงานและเวลาในการรดน้ำครับ
6. เมือเข้าเดือนที่ 3 สามารถเริ่มให้ปุ๋ยเร่งสูตร 46-0-0 ได้ครับ หรือใครที่จะทำเป็นออแกนิกส์ก็เปลี่ยนเป็นปุ๋ยคอกก็ได้ครับ เสร็จแล้วรดน้ำอีกครั้ง
7. เมื่อเข้าเดือนที่ 6 ก็สามารถเก็บขายได้เลยครับ โดย 1 กอสามารถให้ผลผลิตได้ 6-10 กิโลกรัม
แมลงศัตรูพืช เสียใจครับ เพราะตัวตะไคร้เองมีสารสำหรับไล่แมลงอยู่แล้วหายห่วง แถมลดต้นทุนได้อีกโขเลยครับ ง่ายเกินค่าด ต้นทุนต่อไร่ให้สูงสุดไม่น่าจะเกิน 3,000 บาทครับ ค่าไถ ค่าปุ๋ย ค่าพันธุ์ เหลือเฟือเลย แล้วแบบนี้แล้ว เงินแสนต่อปี ง่ายเหมือนปลูกตะไคร้ขายเลยนะครับเนี้ย สรุปใครไม่คุ้ม ผมคุ้มครับสวัสดีครับ
ที่มา: http://www.farmthailand.com/709