วิธีปลูกหอมแบ่งขาย ผักเงินล้าน ความต้องการสูง ระยะเก็บเกี่ยวสั้น

หอมแบ่ง หรือ “ต้นหอม”เป็นผักที่เป็นส่วนผสมหรือเป็นเครื่องปรุงในอาหารเกือบแทบจะทุกอย่างที่เป็นอาหารคาวของคนไทยก็ว่าได้ จึงทำให้ความต้องการใช้ในแต่ละวันสูงมาก สำหรับใครที่สนใจอยากจะเริ่มปลูกไว้บริโภคเองในครอบครัวปลูกหอมแบ่งสำหรับขาย จะมีวิธีการปลูกอย่างไรให้ได้ผล บางกอกทูเดย์เราได้เรียบเรียงข้อมูลการปลูกหอมแบ่งหรือต้นหอมมาให้ศึกษาและลองทำ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นธุกิจที่สร้างรายได้ในอนาคตก็เป็นไปได้ หอมแบ่ง หรือ ต้นหอม มาทำความรู้จักกันก่อน หอมแบ่ง หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Allumcepa var. aggregatum ซึ่งคนทั่วไปมักเรียกว่า“ต้นหอม”เป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน มีใบเป็นรูปทรงกลมกลวงด้านใน ปลายเรียวแหลม ตั้งอยู่บนฐานของหัว (Bulb) รอบ ๆ ลำต้น บริเวณโคนมีกาบใบสีขาวหุ้มลำต้น ส่วนของกาบห่อหุ้มต้นทำให้มีลักษณะพองโตเป็นหัวเมื่อแก่เปลือกจะมีสีแดง นิยมรับประทาน ทั้งแบบสดและใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร สามารถรับประทานได้ทุกส่วน ตลอดจนยังมีสรรพคุณทางยาช่วยในการขับเหงื่อและบำรุงหัวใจ หากกินสด ๆ อย่างต่อเนื่องสามารถลดไขมันในเส้นเลือดได้ หรือนำต้นหอมประมาณ 5-6 ก้านต้มกับขิง 2 แว่น กรองน้ำดื่ม ช่วยขับเหงื่อและลดไข้อีกทั้งเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกสภาพดิน การปลูกหอมแบ่ง หรือ “ต้นหอม” การปลูกต้นหอม ถ้าเอาไว้แค่บริโภคในครัวเรือนก็คงเป็นเรื่องง่าย แค่มีกระถางปลูกไว้สัก 1 อันหรือปลูกไว้พื้นที่เล็ก ๆ ก็คงเพียงพอ ตามความต้องการของแต่ละบ้าน แต่ถ้าสนใจอยากจะเริ่มทดลองปลูก ศึกษา เพื่อที่จะปลูกหอมแบ่งไว้ขายในอนาคตแล้วก็ควรศึกษาวิธีปลูกเชิงการค้า ซึ่งบางกอกทูเดย์เราก็เรียบเรียงมาไว้แบบสรุปให้สั้นแต่คงเนื้อหาสำคัญให้ศึกษาทดลองปลูกดังนี้ การเตรียมดินสำหรับปลูกต้นหอม เริ่มจาการไถดินลึกประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ ประมาณ 10 – 15 วัน เพื่อกำจัดโรคพืช และศัตรูพืช ภายในแปลง จากนั้นปรับสภาพดินด้วยการ ใส่ปูนขาว เล็กน้อยโรยบาง ๆ ให้ทั่วแปลง ก่อนเสริมธาตุอาหารในดินด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพใส่ประมาณ 1-2 ตัน และใส่เศษซากพืช เช่น เศษใบไม้แห้ง เศษหญ้าแห้ง ประมาณ 3-4 ตัน พร้อมใส่เมล็ดสะเดาบดประมาณ 200 – 300 กิโลกรัม ทั้ง 3 ชนิดนี้ใส่คลุกเคล้าในดินพร้อมกันในพื้นที่ 1 ไร่ หลังจากนั้นยกร่องแปลงกว้าง 1 เมตร ปรับหน้าดินให้เรียบ รดน้ำให้ชุ่ม หมักทิ้งไว้ 5 – 7วัน ก่อนนำต้นพันธุ์ มาปลูก จัดระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถวประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร หลังจากเตรียมแปลงแล้วให้รดน้ำแปลงให้ชุ่ม วิธีปลูกหอมแบ่ง นิยมปลูกขยายพันธุ์โดยนำหัวกาบใบที่สมบูรณ์ มาตัดรากออกบางส่วน ตัดบริเวณส่วนยอดของหัวกาบใบแบ่งออกเพื่อให้เกิดการแตกหน่อที่รวดเร็วมากขึ้น ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วันเมื่อมีการแตกหน่อออกมาจึงนำไปปลูกลงแปลงต่อไป วิธีดูแลรักษา การให้น้ำ ให้รดน้ำเช้าและเย็นจนกระทั่งใบยื่นยาว แล้วจึงรดน้ำเหลือเพียงวันละ 1 ครั้ง การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 ตัน / ไร่ ของพื้นที่ก่อนปลูก ส่วนปุ๋ยเคมีใช้สูตร 20-10-10 หรือ 46 – 0 – 0 อัตรา 20-25 กรัม / ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งก่อนปลูกและหลังปลูก 20 วันหรือเมื่อต้นหอมแบ่งมีอายุได้ 20 – 25 วัน ให้ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพประมาณ 1 กิโลกรัม / ตารางเมตร พร้อมใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพเล็กน้อย โดยส่วนผสมในปุ๋ยน้ำชีวภาพ มีคือ ปุ๋ยชีวภาพ 10 กิโลกรัม ปุ๋ยคอกแห้ง 3 กิโลกรัมและใบของพืชตระกูลถั่ว 5 กิโลกรัม ผสมคลุกเคล้าในภาชนะใส่น้ำเปล่า 100- 200 ลิตร หรือใส่น้ำเปล่าจนท่วมสูงประมาณ 10 เซนติเมตร หมักทิ้งไว้ 1 คืน (อัตราส่วนการนำไปใช้ คือ ปุ๋ย น้ำชีวภาพ 2 ลิตร ต่อ น้ำเปล่า 18 ลิตร ) นำไปฉีดพ่นทุก 7 วันครั้ง การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช หากต้นหอมเกิดโรคให้ตัดทิ้งและนำไปทำลายทันทีหรือป้องกันและรักษา เช่น โรคใบไหม้ ให้นำน้ำปูนใสมาราดใส่ในช่วงระบาด รวมทั้งปลูกต้นผักชีแซมก็จะสามารถป้องกันหนอนหลอดได้เช่นกัน หรือถ้าหากฉีดน้ำหมักชีวภาพเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของต้นหอมแล้ว ยังช่วยลดการระบาดของโรคได้อีกทางด้วย วิธีการเก็บเกี่ยวต้นหอม จะเก็บเมื่ออายุได้ประมาณ 45-60 วัน สามารถเก็บเกี่ยวเพื่อนำไปรับประทานได้ซึ่งก่อนเก็บเกี่ยวให้รดน้ำให้ชุ่มก่อน จากนั้นใช้มือจับที่บริเวณโคนต้นดึงขึ้นมาเบา ๆ ให้ติดรากมาด้วย นำไปล้างดินออกให้สะอาด แล้วนำมาผึ้งให้แห้ง “หอมแบ่ง” “ผักหอม” หรือ “ต้นหอม” เป็นผักสวนครัวที่ทุกครอบครัวควรมีไว้ แต่เมื่อสังคมเจริญก้าวหน้ากลายเป็นสังคมเมืองทำให้พื้นที่เพาะปลูกลดน้อยหรือไม่มีเลย ประกอบกับเวลาที่น้อยลงของคนยุคใหม่ที่ต้องเอาเวลาทั้งหมดไปทำงาน เดินทาง การที่จะปลูกพืชผักต่าง ๆ ก็ไม่มีแน่นอน ซึ่งบางกกทูเดย์ทีมงานแอดมินเรา มองว่าหอมแบ่ง หรือต้นหอมเป็นผักที่มีความต้องการที่สูงมาก ปลูกง่าย น่าจะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกผักขาย อายุในการเก็บเกี่ยวก็สั้นด้วย ผักในปัจจุบันมีแต่สารพิษปนเปื้อน โอกาสของเกษตรปลอดสาร ถ้าหากคุณสามารถปลูกผักหอมแบบปลอดสารพิษได้แล้วในปริมาณที่มากพอ พร้อมกับการนำเสนอ การหีบห่อที่ดี พร้อมจัดส่งแล้วละก็ เชื่อแน่ว่าตลาดจะเข้ามาหาเอง อีกทั้งยังได้เป็นการลดความความเสี่ยงจากการทำเกษตรพร้อม ๆ กับการขายอาหารที่ดีมีคุณภาพปลอดสารให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วย…ถ้าของดีปลอดภัยแล้ว ราคาสูงกว่าท้องตลาด คนก็ยอมซื้อผักที่ปลอดภัยแน่นอน และถ้าสามารถหาวิธีปลูกให้ได้ปริมาณที่มากขึ้นพร้อมลดต้นทุนผักปลอดสารได้แล้ว…อาชีพเกษตร คงเป็นอีกอาชีพที่มีรายได้สูงติดอันดับต้นๆแน่ ๆ …BangkokToday.net เราเชื่อว่าเกษตรกรไทยอยู่ดีกินดีและร่ำรวยได้…แต่ต้องรวยความรู้เรื่องการทำเกษตรก่อน ขอบคุณที่อ้างอิง หนังสือ รวยด้วยผักสวนครัวเพื่อการค้า แหล่งที่มา: http://www.bangkoktoday.net/hom-bang/
[fbcomments url="https://parichfertilizer.com/knowledge/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%ab%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2/" width="375" count="off" num="3" title="แสดงความคิดเห็น" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save