ปลูกฝรั่งแป้นยอดแดงป้อนตลาด ราคาดีไม่มีตก
ฝรั่ง เป็นไม้ผลที่มาแรงและได้รับความสนใจปลูกกันมากที่สุดของชาวสามพรานในวันนี้ ด้วยเหตุที่ว่าฝรั่งลงทุนไม่สูงมาก ความเสี่ยงน้อยเมื่อเทียบกับอีกหลายพืชที่ชาวสวนเคยปลูกกันอย่างชมพู่ องุ่น อีกทั้งในช่วงหลายปีมานี้ฝรั่งราคาดีติดต่อกันมาโดยตลอด เพราะไม่เพียงแต่ป้อนตลาดผลสดเท่านั้น ฝรั่งยังสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายโดยเฉพาะฝรั่งแช่บ๊วยที่วันนี้ไม่เพียงจำหน่ายในประเทศเท่านั้น ต่างประเทศก็ยังนิยมรับประทานฝรั่งแช่บ๊วยด้วยเช่นกัน และอาจจะกล่าวได้ว่าสามพรานเป็นแหล่งผลิตฝรั่งแช่บ๊วยที่ใหญ่ที่สุดในงานเกษตรแฟร์
สวนฝรั่งที่เราจะพามาเยี่ยมในครั้งนี้เป็นสวนฝรั่งของ ลุงสะอาด พุ่มสงวน ที่ปลูกฝรั่งมา 5 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ลุงอาดบอกว่า เคยปลูกชมพู่เพื่อป้อนตลาดส่งออกมาก่อนหลายปี แต่ช่วงหลังชมพู่ราคาไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับการลงทุนที่ค่อนข้างสูงและการจัดการที่ยุ่งยาก เมื่อต้นชมพู่อายุมาก ให้ผลผลิตลดลงจึงหันมาปลูกฝรั่งแทน แปลงนี้พื้นที่ 10 ไร่ ระบบการปลูกก็เป็นแบบยกร่องเหมือนกับสวนในเขตภาคกลางทั่วไป ขนาดของร่อง กว้าง 3 เมตร ยาวประมาณ 80 เมตร ปลูกฝรั่งแถวคู่บนร่อง ระยะห่างระหว่างต้น 2.5 เมตร พันธุ์ฝรั่งที่ปลูกเป็นพันธุ์แป้นยอดแดง ซึ่งลุงอาดบอกว่า พันธุ์นี้จะดีกว่าพันธุ์อื่นตรงที่ติดผลง่าย ติดผลดกมากๆ ติดดกทั้งปีโดยไม่ใช้เครื่องพ่นยาสามารถขายได้ทั้งตลาดกินสดและป้อนโรงงานแช่บ๊วย
สำหรับการดูแลรักษาฝรั่งนั้นลุงอาดเล่าว่า เมื่อเริ่มปลูกฝรั่งไปได้ 2 เดือนก็จะเริ่มตัดหญ้าโดยใช้เครื่องตัดหญ้าและใส่ปุ๋ย 25-7-7 ต้นละครึ่งกำมือ ใส่เดือนละครั้ง จากนั้นช่วงใกล้ออกดอก อายุ 8-9 เดือน ต้นเริ่มโตแล้วก็ให้ใส่ปุ๋ยเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนมาใช้ 8-24-24 สลับกับปุ๋ยสูตร 16-16-16 ต้นละ 1 กำมือ ใส่เดือนเว้นเดือน เพื่อช่วยบำรุงและเร่งดอก นอกจากปุ๋ยทางดินแล้วช่วงที่ฝรั่งออกดอกนี้จะเร่งดอกโดยใช้ สาหร่ายช่วยเปิดตาดอกร่วมด้วย โดยใช้ 30-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน จะทำให้ฝรั่งออกดอกดีขึ้น ดอกดกมากๆ และติดผลดกด้วย พอฝรั่งติดผลใส่ปุ๋ยเพิ่มขึ้น โดยใช้ 8-24-24-,16-16-16 ผสมกัน ให้ปุ๋ยอัตรา 2 กำมือต่อต้น นอกจากนี้ก็ยังใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัวบ้าง ขี้หมูบ้าง 1 กระสอบใส่ได้ 5-6 ต้น
ฝรั่งก็เหมือนกับพืชชนิดอื่นที่ต้องมีศัตรูมารบกวน โดยศัตรูตัวฉกาจของฝรั่งก็คือ เพลี้ยแป้งที่มีโอกาสระบาดได้ตลอดทั้งปี ที่นี่จะใช้ คลอร์ไพรีฟอส สลับกับ แลนเนท ฉีดพ่น 7-10 วันครั้ง ไปตลอดจนกว่าจะเก็บผล ส่วนเพลี้ยไฟใช้ยาป้องกันเพลี้ยไฟ เช่น อะบาเม็กติน ฉีดไปพร้อมกันยาเพลี้ยแป้งทุก 7-10 วันเช่นกัน ส่วนเชื้อรานั้นมักจะมาช่วงหน้าฝนจะใช้แอนทาโคล และคาร์เบนดาซิมฉีดพ่นสลับกัน ลุงอาดบอกว่าให้ฉีดพ่นเพียงแค่ 2 ครั้งก็พอ หากเกินกว่านี้ 3 ครั้งขึ้นไปจะทำให้ดื้อยา นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของรากปมที่เกิดจากไส้เดือนฝอย ซึ่งจะทำให้ฝรั่งยืนต้นตาย และเป็นปัญหาของฝรั่งในเขตนี้พอสมควร จะป้องกันโดยใช้ฟูราดานหรือทำให้ดินร่วน ฝรั่งที่เป็นรากปมนั้นจะสังเกตเห็นว่าต้นแคระแกร็น ใบแห้ง แสดงว่าเริ่มเกิดอาการของโรครากปมแล้วให้ป้องกันอย่างที่กล่าวมา
ลุงอาดบอกว่า การปลูกฝรั่งนับว่าช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชาวสวนที่นี่มายาวนาน แต่ใครจะได้มากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผลิตว่าจะสามารถทำให้ฝรั่งติดดก ให้ผลผลิตเก็บได้มากแค่ไหน และสามารถทำให้ฝรั่งมีผลผลิตเก็บขายได้ในช่วงราคาแพงหรือไม่ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ชาวสวนที่นี่ก็มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีเพราะทำกันมานานนั่นเอง
ที่มา: http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539801679&Ntype=8