คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! ‘กุยช่าย’ พืชทางเลือกเสริมที่ปลูกเพียงครั้งเดียว ตัดใบตัดดอกขายได้ทั้งปี
10Aug,17
แต่การปลูกกุยช่ายให้ได้คุณภาพ ต้องเริ่มกันตั้งแต่ไถปรับหน้าดิน เลือกใส่ปูนขาว, แคลเซียมสังเคราะห์, หรือหัวไชเท้าหมักร่วมกับผักผลไม้เนื้อแน่นๆ แต่อย่าใช้สับปะรด เพราะมีกรดมากเกิน ทำให้รากใบกุยช่ายเน่าง่าย จากนั้นปรับท้องร่องให้นูนเป็นหลังเต่า น้ำไม่ท่วมขัง พื้นที่ 1 ไร่ ใช้ต้นกล้าปลูก 400 กก. (16,000 บาท) คลุมด้วยฟางรักษาความชื้นหน้าดิน
หลังปลูกได้ 2 เดือน ใบกุยช่ายจะเริ่มให้ตัดครั้งแรก (มีดที่ 1) พื้นที่ 1 ไร่ ได้ 2 ตัน (60,000 บาท) และอีก 15 วัน จะมีดอกกุยช่ายให้ตัดทุก 3 วัน วนไปเรื่อยๆ ดอกนี่แหละเป็นกำไรได้เปล่าๆ ถ้าหน้าร้อนราคา กก.ละ 40 บาท ช่วงฤดูหนาวกุยช่ายไม่ค่อยออกดอกได้ราคา 60 บาท แต่ละรอบของการตัดใบ จะตัดดอกกุยช่ายได้ 16 ครั้ง (3 วันตัด 1 ครั้ง)
หลังจาก 2 เดือน เป็นอันว่าตัดมีด 2 ได้ผลผลิตไม่ต่างจากครั้งแรกมากนัก ซึ่งหลังจากตัดใบกุยช่ายครั้งที่ 2 แล้ว จะเริ่มมี ดอกให้ตัดเหมือนเดิม แต่เมื่ออายุ 48 วัน ต้องเอากระถางมาครอบปิดไว้ 12 วัน จะได้กุยช่ายขาวอวบขายได้ กก.ละ 150-200 บาท ต่างจากใบเขียวที่ขายได้แค่ 25-60 บาท
แม้จะมีผักชนิดใหม่เป็นทางเลือก สามารถหนีเรื่องต้นทุน ปรับไถเตรียมหน้าดินได้ก็จริง แต่ยังพบเจอปัญหาฤดูร้อนอุณหภูมิสูงมากๆ ต้นกุยช่ายจะเกิดอาการใบม้วนหงิก ไม่โต ต้นแคระแกร็น จึงได้คิดติดตั้งสเปรย์น้ำพ่นฝอยใต้หลังคาสแลน ลดอุณหภูมิความร้อนได้ผล ต้นกุยช่ายโตเร็ว ใบอวบ เขียว ตรงตามความต้องการของตลาด
กุยช่ายที่ปลูกได้คุณภาพ ทำให้ขายได้ราคา ไม่ต้องเหมายกเข่งขายเป็นตันเหมือนในอดีต พื้นที่ 1 ไร่ ทั้งตัดใบเก็บดอก รวมแล้วได้แน่ๆ 250,000-270,000 บาท (ยังไม่หักต้นทุน) แม้รายได้จะดี แต่หลังตัดใบครบ 3 ครั้ง ต้องรื้อปรับ สภาพบำรุงดินกันใหม่ พร้อมกับสลับเปลี่ยนไปปลูกพืชอย่างอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรครากเน่า
ข้อมูลข่าว : http://www.thairath.co.th/content/879321
แหล่งที่มา: http://www.kasetnews.com/?p=7922