ฟักทองแหล่งใหญ่ของประเทศ สร้างรายได้ต่อปีกว่า 100 ล้านบาท
“บุญบักอื๋อใหญ่” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกในปี 2554 การจัดงาน “บุญบักอื๋อใหญ่” นอกจากจะเป็นงานที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ฟักทองนากระแซงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้เกษตรกรได้นำฟักทองจากสวนมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรงอีกด้วย
ฟักทองในนากระแซงนั้นเป็นพืชที่ชาวบ้านนิยมปลูกในฤดูแล้งหลังฤดูทำนาปีซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งนอกเหนือจากฟักทองแล้วก็จะมีพืชผักอื่นๆ ที่ชาวบ้านใช้เครื่องมือเกษตรกรลูกกัน อาทิเช่น พริก มะเขือ แตงโม แต่ที่นิยมมากที่สุดจะเป็นฟักทอง เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ได้ผลผลิตเร็ว อีกทั้งเรื่องของตลาดก็มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่สวน ถ้าฟักทองราคาก็มีรายได้ก้อนโตได้ไม่ยาก บางปีฟักทองสร้างรายได้ สร้างฐานะให้กับชาวบ้านที่นี่อย่างมากทีเดียว ในแต่ละปีฟักทองสามารถทำรายได้ให้กับชาวตำบลนากระแซงนับ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว และมีการกล่าวกันว่า กินฟักทองท้องถิ่นไหนก็ไม่อร่อยเหมือนกินฟักทองนากระแซง
วันนี้เราจะไปดูฟักทองที่นี่กัน ซึ่งมีการปลูกฟักทองสืบทอดกันมาหลายปีแล้ว คุณนัยนา เจริญภักดิ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ปลูกฟักทองหลังฤดูทำนา คุณนัยนา เล่าว่า ชาวบ้านที่นี่จะปลูกฟักทองกันตั้งแต่พื้นที่น้อยๆ 5 ไร่ไปจนถึงเกษตรกรรายใหญ่ปลูกเป็น 100 ไร่ เฉลี่ยแล้วเกษตรกรแต่ละรายจะปลูกกันประมาณ 20 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 13 จะปลูกเยอะกว่าพื้นที่อื่น คือประมาณ 70 ครัวเรือน
คุณนัยนา บอกว่า โดยปกติแล้วที่นี่จะนิยมปลูกฟักทองกันช่วงเดือน พ.ย. และไปเก็บผลผลิตกันในเดือน ม.ค.อายุการเก็บฟักทองนั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก ถ้าเป็นพันธุ์เบา อายุเก็บเกี่ยวก็ 80-90 วัน พันธุ์หนักอายุเก็บเกี่ยว 110-120 วัน พันธุ์ที่นิยมปลูกกันก็จะมี ศรีเมือง 16 ทองอำไพ 342 ศิลาทอง ศิลาเพชร การปลูกฟักทองจะเริ่มจากการเตรียมดิน รองพื้นด้วยปุ๋ยคอก 1 ตันต่อไร่ จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้มาหยอดในหลุมโดย 1 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กระป๋อง ระยะห่างต่อต้น 1.50 เมตร ระยะห่างของแถว 2 เมตร การให้ปุ๋ยจะดูจากสภาพความสมบูรณ์และเวลาว่างของชาวสวนจะใส่ทุกอาทิตย์ก็ได้หรือใส่ทุก 10 วันครั้งก็ได้ อย่างที่สวนคุณนัยนาจะใส่ทุก 15-20 วัน ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 รดน้ำตามทุกๆ 2 วันครั้ง อายุได้ 2 อาทิตย์เริ่มแตกใบอ่อนให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบเพื่อบำรุงต้นและใบทุก 7-10 วันครั้ง เมื่อฟักทองอายุได้ 45 วัน ให้เปลี่ยนสูตรปุ๋ยเป็น13-13-21 ใส่ทุก 10 วันหรือ ทุก 15-20 วันก็ได้ โดยจะใช้ปุ๋ยสูตรนี้ไปจนกระทั่งเก็บเลย พร้อมกับฉีดพ่นฮอร์โมนบำรุงดอก ผล ต้นทุก 7-10 วัน เพื่อให้ฟักทองผลโต สวย
เมื่อฟักทองอายุได้ 75-80 วัน(ที่สวนปลูกพันธุ์ศรีเมือง) ก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยจะเก็บครั้งเดียวหมดทั้งแปลง ผลผลิตไร่หนึ่งได้ประมาณ 4-5 ตัน ถ้าเป็นพันธุ์อื่นซึ่งเป็นพันธุ์หนักผลผลิตจะเยอะกว่านี้คือประมาณ 5-6 ตันต่อไร่ ฟักทองที่นี่จะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่สวนเลย ลักษณะการซื้อขายก็จะมีอยู่ 2 อย่างคือซื้อเหมาทั้งไร่ๆ ละหมื่นขึ้นไปราคาตามท้องตลาด อีกอย่างเป็นการซื้อแบบชั่งน้ำหนัก ราคาเฉลี่ยตลอดทั้งปี อยู่ที่ 8-9 บาท/กก. บางช่วงเคยได้สูงสุด 10-20 บาท/กก.ก็มี เรียกว่าชาวสวนมีกำไรจากการขายฟักทองกันเป็นกอบเป็นกำ รายได้ต่อไร่ 40,000-50,000 บาท แต่ละคนปลูกกัน 10-20 ไร่ ก็มีรายได้กัน 4-5 แสนบาท ขณะที่ลงทุน 1-2 แสนบาท ยิ่งถ้าปลูกฟักทองในที่ดอนตอนที่มีผลผลิตน้อยยิ่งได้ราคา คุณนัยนา บอกว่า ชาวสวนที่ปลูกฟักทองแล้วขายได้ราคาได้ดีๆ จะเป็นคนที่ปลูกในพื้นที่ดอน ไม่มีน้ำท่วมขัง โดยเริ่มปลูกตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย. แล้วไปเก็บช่วงเดือน ต.ค.ไปจนถึงปลายเดือน พ.ย.ช่วงนี้จะได้ราคาที่ดี เพราะฟักทองจะออกก่อนช่วงที่ชาวบ้านจะปลูกกันเยอะหลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จ จึงทำให้ผลผลิตออกมาประดังประเดกันเยอะในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามแม้จะมีผลผลิตออกมามากเพียงไร ทุกปีฟักทองก็ไม่เคยราคาตกต่ำ ราคาฟักทองยังอยู่ที่ 5-8 บาท/กก. มาตลอดหลายปี ชาวบ้านก็ยังมีกำไร
สำหรับการลงทุนปลูกฟักทองคุณนัยนาบอกว่า ปกติแล้ว พื้นที่ 1 ไร่จะลงทุน 10,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับปุ๋ยและยาที่เกษตรกรใช้กัน ฟักทองราคาดีชาวบ้านก็จะซื้อปุ๋ย-ยามาใส่ให้เยอะเพื่อบำรุงให้ฟักทองงาม ให้ผลผลิตสูง โดยปกติผลผลิตประมาณ 5 ตัน/ไร่
ข้อมูลเพิ่มเติม คุณนัยนา เจริญภักดิ์ 263 ม. 13 ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี โทร.089-6276855
แหล่งที่มา: http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539799916&Ntype=8
>> ฟักทองแหล่งใหญ่ของประเทศที่นากระแซง จ.อุบลราชธานี สร้างรายได้ต่อปีกว่า 100 ล้านบาท
ด้วยความที่เป็นพืชที่ทำอาหารได้หลากหลายทั้งคาว-หวาน จึงทำให้ฟักทองเป็นอีกพืชหนึ่งที่เกษตรกรให้ความสนใจในการปลูกกันมาก แหล่งปลูกฟักทองแหล่งใหญ่ของบ้านเรามีมากมายโดยเฉพาะภาคอีสาน เช่น ศรีสะเกษ สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี ภาคกลาง ก็เช่น ที่ กาญจนบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ภาคใต้ก็มีปลูกเช่นกัน แหล่งปลูกฟักทองแหล่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีแห่งหนึ่งก็คือ ต.นากระแซง อ.เดชอุดม
จ.อุบลราชธานี ที่นี่มีการปลูกฟักทองกันมาก จนทาง ต.นากระแซง ได้มีการจัดงานเพื่อส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรขึ้น ชื่อว่า