PARICH | CARE.MORE

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

ดอกขจร หรือ ดอกสลิด…ผักพื้นบ้านอีกชนิดที่ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมจะเพิ่มขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีมานี้ นอกจากจะนิยมรับประทานกันในกลุ่มคนเมืองแล้ว ยังได้รับความนิยมรับประทานในภาคอื่นๆด้วย จนทำให้ดอกสลิดมีการขยายพื้นที่ปลูกในเชิงการค้าในพื้นที่ภาคต่างๆ มากขึ้น จนทำให้เราเห็นดอกสลิดมีจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด ตั้งแต่ตลาดในท้องถิ่น ในเมืองไปจนถึงบนห้างสรรพสินค้า ด้วยความที่ดอกสลิดมีรสชาติที่อร่อย ทำอาหารได้หลากหลาย ทั้งต้มจิ้มน้ำพริก แกงส้ม แกงจืด ผัดน้ำมัน ไม่เพียงปลูกขายดอกเท่านั้น วันนี้สลิดยังเป็นที่นิยมในตลาดไม้ประดับสวนด้วย เพราะสลิดมีดอกที่สวยงาม จะปลูกเป็นซุ้ม ปลูกในกระถางให้เป็นพุ่มหรือปลูกประดับรั้วก็สวยงาม อีกทั้งยังเป็นไม้ประดับที่กินได้ อีกด้วย สลิดจึงกลายมาเป็นพืชผักเศรษฐกิจ การปลูกผักที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้ ความน่าสนใจของดอกสลิด ทำให้วันนี้ สวนจินดอกสลิด ต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ไม่นาน คุณไพศาล และคุณสุนัน สุตะเขตร์ เจ้าของสวน บอกว่า ตอนนี้ดอกสลิดได้รับความนิยมมากทั้งในตลาดบริโภคดอกและตลาดไม้ประดับสวนจึงทำให้มีคนสนใจขยายพื้นที่ปลูกในจังหวัดต่างๆมากมาย แม้กระทั่งในสถานที่ราชการหรือหน่วยราชการต่างๆที่สนับสนุนและส่งเสริมพันธุ์ไม้ให้กับเกษตรกรก็เลือกดอกสลิดมาเป็นไม้ส่งเสริมปลูกไม่ใช้เครื่องพ่นยา จึงทำให้ตลาดดอกสลิดกว้างขึ้นมาก แปลงดอกสลิดที่เห็นนี้คุณสุนันบอกว่า เป็นแปลงสลิดที่ลงปลูกใหม่รุ่นที่ 2 แล้ว แปลงสลิดรุ่นแรกอายุ 8 ปีเพิ่งรื้ออกไปได้ประมาณปีกว่า แปลงสลิดรุ่น 2 นี้อายุประมาณ 10 กว่าเดือนถึง 1 ปี คุณสุนันเล่าว่า เมื่อดอกสลิดแปลงแรกเริ่มโทรมเพราะเก็บผลผลิตมานานก็จะแซมต้นใหม่ลงไปรอเลยเพื่อไม่ให้ขาดช่วงของรายได้ โดยสลิดที่ปลูกตอนนี้มีประมาณ 700-800 ต้นได้ คุณสุนัน บอกว่า ดอกสลิดมีจุดเด่นที่ทำให้เธอเลือกที่จะปลูกดอกสลิดมานานเกือบ 10 ปี ก็เพราะสลิดเป็นพืชที่มีอายุยาวอยู่ได้นาน และสามารถออกดอกให้ผลผลิตทั้งปี เป็นพืชที่ทนร้อนทนแล้งได้ดี แต่ถ้าในช่วงหน้าหนาวก็จะไม่ค่อยออกดอกเท่าไหร่ ซึ่งช่วงนี้ถ้ามีดอกออกมาก็จะได้ราคาแพงเป็นที่น่าพอใจเลยทีเดียว คุณไพศาลบอกว่าดอกสลิดจะดกหรือไม่ดกนั้นขึ้นอยู่กับการแต่งกิ่ง ซึ่งจะต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งเมื่อพุ่มเริ่มหนาซึ่งจะทำให้ดอกเริ่มน้อยลง ก็จะตัดแต่งกิ่งออกบ้างให้ทรงพุ่มโปร่ง สลิดก็จะแตกยอดออกมาใหม่พร้อมกับมีดอกตามมาเรื่อยๆ พอเด็ดยอดก็จะยิ่งแตกยอดใหม่ตามข้อออกมาเรื่อยๆ ยอดหนึ่งจะยาวมาประมาณ 7-8 ข้อ มีดอกทุกข้อ ยิ่งตัดก็จะยิ่งแตก การปลูกดอกสลิดนั้นการทำค้างถือว่าสำคัญและมีผลต่อการออกดอกของสลิดอย่างมาก สลิดเป็นไม้เลื้อยการปลูกจึงต้องทำค้างเพื่อให้ยอดสลิดขึ้นไปเลื้อยบนค้าง และต้องคอยจับยอดให้เลื้อยขึ้นค้างและห้อยลงมาด้านล่างไม่ให้กิ่งทับกันมากเพราะนอกจากจะทำให้สลิดออกดอกดก กิ่งก้านโปร่ง เป็นระเบียบแล้วยังจะทำให้เดินเก็บดอกได้สะดวกอีกด้วย ชาวสวนบางรายทำเป็นซุ้ม แบบนี้จะหนาแน่นแล้วก็ไม่ดก ดอกสลิดต้องการความโปร่ง ค้างที่ใช้อยู่ตอนนี้เหมือนกับการทำค้างองุ่นโดยใช้ไม้ปักไว้ตรงกลางและปักไม้ด้านข้างอย่างละต้นแล้วขึงลวดตามความยาวเหมือนกับการทำค้างองุ่นสำหรับให้กิ่งเลื้อยขึ้นไปข้างบน หนึ่งร่องจะปลูก 3 แถว คือริมร่องทั้งสองด้านและตรงกลางร่องอีกหนึ่งแถว ค้างด้านข้างจะปักเสาลงไปในร่องน้ำเลย ซึ่งจะทำให้พื้นที่ด้านบนค้างเพิ่มขึ้นมากกว่าการปักเสาบนร่อง ระยะปลูกที่ใช้ก็ 1-1.10 เมตร ฤดูกาลออกดอกของสลิดจะให้ดอกเยอะในช่วงฝนและจะให้ดอกไปเรื่อยๆ ดอกจะเริ่มน้อยลงในช่วงหนาวจนถึงช่วงร้อน โดยหลังปลูกเพียง 3 เดือนสลิดก็จะออกดอกแล้ว ช่วงเดือนที่ 4-5 ต้นจะเติบโตเร็วเกินไปและดอกจะเริ่มเยอะ เดือนที่ 6 ขึ้นไปเริ่มจะเต็มที่แล้ว การเก็บดอกสลิดจะเก็บดอกสลิดขายกันทุกวัน ตอนนี้มีต้นที่ให้ผลผลิตเต็มที่ประมาณ 300 ต้น ที่เหลือยังเลื้อยไม่เต็มค้าง ผลผลิตเก็บวันละ 30-40 กก. ช่วงดอกเยอะเก็บวันหนึ่งถึง 100 กก.ก็มี เฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ประมาณ 60 กก. ดอกหลังจากที่เก็บมาแล้วจะต้องนำมาคัดแยกดอกตูมและดอกบานซึ่งจะขายได้ราคาต่างกัน ดอกตูมนั้นจะได้ราคาที่ดีกว่า 100 บาท/กก. ดอกบานอยู่ที่ราคา 60 บาท/กก. จากนั้นก็บรรจุใส่ถุงๆ ละ 1 กก. ส่วนราคาในช่วงฤดูหนาวที่ไม่ค่อยมีดอกนั้น ราคาจะค่อนข้างสูงอยู่ที่ 120-130 ช่วงฝนเอกเยอะ ราคาดอกสลิดต่ำสุดอยู่ที่ 50 บาท/กก. แต่ช่วงที่ดอกน้อยราคาก็พุ่งไปถึง 100 บาท/กก. เลยทีเดียว ผลผลิตจะมีแม่ค้าเข้ามารับซื้อไปส่งตลาดนครปฐม ปากคลองตลาด วันหนึ่งก็มีรายได้ไม่น้อยเลย นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขายกิ่งพันธุ์และขายต้นในกระถางสำหรับปลูกประดับอีกด้วย ราคากิ่งพันธุ์กิ่งละ 25 บาท มีบริการสั่งซื้อและจัดส่งทางไปรษณีย์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่สนใจปลูกแต่อยู่ไกลอีกด้วย ซึ่งจะมีการแพ็คอย่างดี ไม่ให้กิ่งชำและไม่เสียหายจากการขนส่งเลย แหล่งที่มา: http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539798843&Ntype=8 ขอบคุณรูปภาพ : https://goo.gl/As5rYQ