PARICH | CARE.MORE

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

ในหลายวิธีการของการเพาะปลูกนั้นมีเรื่องหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีเนื้อที่น้อยแต่ต้องการมีพื้นที่เพาะปลูกเป็นของตนเอง นั้นก็คือ การเพาะเห็ดในตุ่ม ที่โครงการฟาร์มตัวอย่างตามแนว พระราชดำริ ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง มีกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ของเกษตรกรในพื้นที่มากมายให้ได้ศึกษา และที่ผ่านมามีราษฎรในพื้นที่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ตลอดถึงปฏิบัติหน้าที่ภายในฟาร์มเป็นจำนวนไม่น้อยที่ได้นำแนวทางการดำเนินงานด้านการเพาะปลูกมาปฏิบัติใช้จนประสบความสำเร็จ ตั้งตัวได้ และมีกินมีใช้มีเหลือเก็บเพื่อใช้ในตอนปลายของชีวิตเป็นจำนวนไม่น้อยในหลายวิธีการของการเพาะปลูกนั้นมีเรื่องหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีเนื้อที่น้อยแต่ต้องการมีพื้นที่เพาะปลูกเป็นของตนเอง นั้นก็คือ การเพาะเห็ดในตุ่ม เจ้าหน้าที่ฟาร์มตัวอย่างประจำแปลงเพาะเห็ดได้เล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดภายในตุ่มนั้นทุกคนสามารถทำได้ ไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก การดูแลรักษาเป็นปกติธรรมดาคือไม่พิเศษอะไร ที่สำคัญเป็นการลงทุนน้อยแต่ได้ผลตามที่ต้องการ หรือหากจะทำแบบเชิงพาณิชย์ก็สามารถทำได้เพียงเพิ่มปริมาณตุ่มให้มากขึ้นเท่านั้นหลังจากได้ตุ่มมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นตุ่มเก่าที่มีรอยร้าว หรือรอยแตกแหว่งไปบ้างก็ไม่เป็นไร เริ่มด้วยการจัดหาที่วางให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งควรเป็นใต้ร่มไม้หรือบริเวณที่มีร่มเงา ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกจากนั้นก็นำก้อนเชื้อเห็ดถุงชนิดที่ต้องการจะเพาะมา พร้อมกระสอบป่านที่ใช้ใส่ข้าวสารหรือตาข่ายพรางแสงสีดำและบัวรดน้ำ เตรียมไว้ให้พร้อมนำก้อนเชื้อเห็ดชนิดที่ต้องการ จำนวน 20 ก้อน ตาข่ายพรางแสง หรือกระสอบป่าน สำหรับปิดปากโอ่ง จำนวน 1 ผืน ไม้ไผ่ตีเป็นตะแกรง ขนาดความกว้าง ยาว ให้พอดีกับขนาดโอ่งที่เตรียมไว้ กรอบไม้ทำฐานรองพื้นโอ่งด้านนอก ทรายหยาบ รองพื้นโอ่ง เชือกฟางนำไม้ที่เตรียมไว้สำหรับทำฐานรองโอ่งด้านนอกมาตีล้อมกรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยให้มีพื้นที่ว่างระหว่างกรอบไม้เพียงพอต่อการวางพื้นที่ผิวของโอ่งที่จะวางในแนวนอน ไม่ให้โอ่งกลิ้ง นำโอ่งมานอนลงนำทรายหยาบมาเทรองพื้นโอ่งที่วางไว้ในแนวนอน มีความหนาประมาณ 2-3 นิ้ว เพื่อกักเก็บความชื้น นำตะแกรงไม้ไผ่ที่เตรียมไว้มาวางด้านในโอ่ง ทำเป็นแผงสำหรับวางก้อนเชื้อเห็ด โดยให้มีพื้นที่ว่างด้านบนมากกว่าพื้นที่ว่างด้านล่างนำก้อนเชื้อเห็ดที่ต้องการเพาะมาเรียงไว้จนเต็ม และทำการเปิดดอก ด้วยวิธีการเปิดจุกก้อนเชื้อด้านบน บังคับให้ดอกออกเป็นกระจุกด้านบน ก่อนวางเรียงก้อนเชื้อเห็ดจนเต็ม ปิดปากโอ่งด้วยกระสอบป่านหรือตาข่ายพรางแสง แล้วใช้เชือกผูกยึดกระสอบกับขอบปากโอ่งให้แน่น โดยปล่อยชายกระสอบให้สามารถเปิดขึ้นลงได้ เพื่อสะดวกต่อการรดน้ำบนก้อนเชื้อเห็ดควรรดน้ำช่วงเช้ากลางวันและเย็น ถ้าพบว่าก้อนเห็ดแห้งเกินไป ควรเพิ่มความชื้นโดยใช้กระบอกฉีดน้ำ พ่นน้ำให้เป็นฝอยในโอ่ง เพื่อเป็นการให้ความชื้นแก่ก้อนเห็ด แล้วปิดปากโอ่ง ไว้ดังเดิม ให้เปิดกระสอบป่านหรือตาข่ายพรางแสงเพื่อระบายความร้อน หลังเพาะประมาณ 1 สัปดาห์ จะเริ่มมองเห็นตุ่มสีขาวเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนก้อนเชื้อเห็ด ในช่วงนี้ต้องระวังเรื่องการรดน้ำ อย่าให้ดอกเห็ดโดนน้ำเพราะจะทำให้ดอกฝ่อและเน่าเสียหายได้ ประมาณ 7-10 วัน เห็ดจะออกดอกสามารถเก็บมารับประทานได้ล่าสุด นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วย นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ ที่ปรึกษาสำนักงาน กปร. นายจรูญ อิ่มเอิบสิน ผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ เจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโครงการฯ พบว่ามีความคืบหน้าและเป็นที่สนใจของราษฎรในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างดี มีการเดินทางเข้าศึกษาดูงานของประชาชนอย่างต่อเนื่องซึ่งประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถเดินทางเข้าเรียนรู้กรรมวิธีการเพาะปลูกพืชชนิดต่าง ๆ และวิธีต่าง ๆ รวมทั้งการเพาะเห็ดในตุ่มดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แหล่งที่มา: http://www.dailynews.co.th/agriculture/359186 ขอบคุณรูปภาพ : http://www.haaksquare.com/en/node/3012 http://sarakased.blogspot.com/2012/10/blog-post.html http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66201.0