รวยด้วยตะไคร้ ใคร ๆ ก็ทำได้

สวัสดีครับพี่น้องชาวฟาร์มไทยแลนด์ทุกคน สำหรับวันนี้ผมมีอีกนึ่งวิถีทางแห่งการเป็นเกษตรรายได้สูงมาฝากกันอีกแล้ว สำหรับตะไคร้นี้ผมเชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จัก (เอ๊ะหรือว่าจะมี) เอาเป็นว่าไม่มีเกษตรกรคนไหนไม่รู้จักละกันเนอะ เป็นเป็นพืชที่อยู่คู่กับครัวไทยกันมานานนม ซึ่งอาหารไทยส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่ใช้เจ้าตะไคร้เป็นส่วนประกอบ แล้วยังไง?? ในเมื่อมันขาดไม่ได้แล้วแหล่งผลิตของเจ้าตะไคร้นี้มาจากไหน นั่นสิครับในเมื่อเรากินเราใช้กันอยู่ทุกวันทำไมเราไม่ปลูกขายเป็นพืชทำเงินซะเลยละครับ(ความคิดดีนะเนี้ย) ที่สำคัญเจ้าตะไคร้นี้เป็นพืชที่แสนจะปลูกได้ง่าย ใครก็ปลูกได้ (แล้วใครจะมาซื้อ) ก็คุณผู้อ่าน และผมอีกคนหนึ่งนี่ละครับที่เป็นคนซื้อฟันธง!! คุ้มหรือไม่กับการปลูกตระไคร้ขาย?? สำหรับราคาตระไคร้ ณ วันนี้ตกราวๆกิโลกรัมระ 15-30 บาท แล้วแต่เกรด ในหนึ่งไร่สามารถให้ผลผลิตได้สูง 1-3 ตันในการเก็บเกี่ยวทั้งหมด ซึ่งแล้วแต่วิธีการเก็บ ใช้เวลาตั้งแต่การปลูกจนถึงเก็บขาย ประมาณ 6 เดือน ปีหนึ่งสามารถทำได้ 2 ครั้ง คิดเป็นเงินแบบต่ำสุดเลยก็ราวๆ 30,000บาท/ปี/ไร่ (15บาท*1000กิโลกรัม*2ครั้งต่อปี) ซึ่งถือว่าทำกำไรต่อไร่ได้ดีไม่น้อยครับ คุ้มปะละ แล้วจะปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตสูงๆ 1. เลือกพันธุ์ที่ดี สำหรับตระไครในบ้านเราที่นิยมปลูกกันมีอยู่ 2 สายพันธุ์ นั่นก็คือพันธุ์พื้นบ้าน และก็พันธุ์เกษตร ซึ่งผมแนะนำให้ปลูกพันธุ์เกษตรเพราะให้ผลผลิตที่สูงกว่า ลำต้นใหญ่กว่าพันธุ์พื้นบ้าน(แต่ราคาเท่ากันยังต้องเลือกอีกเหรอ) 2. ตัดใบ(เพื่อลดการคลายน้ำ)และรากของตะไคร้ออก เพื่อเตรียมการปลูก เกษตรกรสามารถที่จะนำต้นตระไคร้แช่น้ำไว้สัก 5 วันก่อนการปลูกเพื่อให้มั่นใจว่าตะไคร้มีรากงอกออกมานั้นแปลว่าปลูกได้ 100 เปอร์เซ็นต์ 3. การเตรียมดิน ทำการไถพรวนดินสัก 2 รอบ ยกร่องได้จะดีมากโรยปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน ทิ้งไว้ 5- 7วัน ก่อนทำการปลูก 4. ขุดหลุมสำหรับปลูกต้นตะไคร้ขนาด 25 X25 เซ็นติเมตร(2จอบ) ลึก 25 เซ็นติเมตร นำปุยคอกผสมกับดินคลุกให้เข้ากันปักต้นพันธุ์ตะไคร้ลงดินให้มีลักษณะเอียง 45 องศา ลึก 5 เซนติเมตร จำนวนหลุมละ 2 ต้น 5. รดน้ำในช่วงแรกๆ 2-3 วันต่อครั้ง หลังจากตะไครเริ่มงามแล้ว สัปดาห์ละครั้งก็พอครับ แนะนำให้ทำเป็นระบบให้น้ำผ่านทางท่อเพื่อลดการใช้แรงงานและเวลาในการรดน้ำครับ 6. เมือเข้าเดือนที่ 3 สามารถเริ่มให้ปุ๋ยเร่งสูตร 46-0-0 ได้ครับ หรือใครที่จะทำเป็นออแกนิกส์ก็เปลี่ยนเป็นปุ๋ยคอกก็ได้ครับ เสร็จแล้วรดน้ำอีกครั้ง 7. เมื่อเข้าเดือนที่ 6 ก็สามารถเก็บขายได้เลยครับ โดย 1 กอสามารถให้ผลผลิตได้ 6-10 กิโลกรัม แมลงศัตรูพืช เสียใจครับ เพราะตัวตะไคร้เองมีสารสำหรับไล่แมลงอยู่แล้วหายห่วง แถมลดต้นทุนได้อีกโขเลยครับ ง่ายเกินค่าด ต้นทุนต่อไร่ให้สูงสุดไม่น่าจะเกิน 3,000 บาทครับ ค่าไถ ค่าปุ๋ย ค่าพันธุ์ เหลือเฟือเลย แล้วแบบนี้แล้ว เงินแสนต่อปี ง่ายเหมือนปลูกตะไคร้ขายเลยนะครับเนี้ย สรุปใครไม่คุ้ม ผมคุ้มครับสวัสดีครับ ที่มา: http://www.farmthailand.com/709
[fbcomments url="https://parichfertilizer.com/knowledge/%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b9%89-%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3-%e0%b9%86-%e0%b8%81%e0%b9%87%e0%b8%97%e0%b8%b3/" width="375" count="off" num="3" title="แสดงความคิดเห็น" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save