Auto Draft

สลัดบีทสวิสชาร์ด ปลูกง่าย

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

สลัดบีทสวิสชาร์ด เป็นพืชที่ปลูกง่ายสามารถปลูกแบบไฮโดรโพนิกส์ หรือปลูกลงกระถางขนาดเล็กได้เป็นพืชที่ทนต่ออากาศร้อนได้ดีในใบและก้าน นับเป็นพืชเพื่อสุขภาพด้วยมีสารมีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 13 ชนิด ตามลักษณะของสี เป็นผักในกลุ่มเดียวกับบรีทรูท มีลักษณะเด่นที่ก้านใบและลำต้นจะมีสีสันสวยงามตามชนิดและสายพันธุ์ โดยมีสีหลักๆ คือ สีแดง เหลือง ชมพู ขาว ม่วง เขียว เป็นใบเดียวสีเขียวเข้ม สามารถรับประทานเป็นผักสดหรือนำไปทำเป็นอาหารต่าง ๆ ได้หลากหลายสามารถทานได้ทั้งก้านใบ และส่วนที่เป็นใบ สำหรับวิธีการเพาะเมล็ดสวิสชาร์ดเริ่ม ด้วยการนำเมล็ดซึ่งจะมีจำหน่ายในร้านขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั่วไป มาแช่ในน้ำอุ่นที่ประมาณ 50 องศา ประมาณ 1 คืน กรณีที่ผู้ปลูกต้องการเพาะลงดิน ให้ผึ่งเมล็ดให้แห้งนำมาเพาะในถาดเพาะ โดยใช้วัสดุเพาะ เช่น พีทมอสผสมขุยมะพร้าว ซึ่งก็มีจำหน่ายโดยทั่วไปเช่นกัน จากนั้นรดน้ำทุกวันตอนเช้า และคลุมด้วยผ้าพลาสติก ประมาณ 7-14 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก ถ้าเพาะโดยแช่น้ำอุ่นไม่นานหรือนำไปเพาะโดยไม่แช่น้ำอุ่นให้เมล็ดอิ่มน้ำก่อนนั้น เมื่อนำไปเพาะเมล็ดจะใช้เวลาในการงอกประมาณ 12-24 วัน สำหรับการปลูกแบบไฮโดรฯ ก็ให้นำเมล็ดที่แช่น้ำแล้ว 1 คืนมาห่อด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาน ๆ ใส่ในถุงพลาสติก แล้วใส่กล่องถนอมอาหารเอาไว้อีกชั้น 1-4 วันแรกให้นำกล่องถนอมอาหารไปตากแดดให้อุณหภูมิในกล่องสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น เมื่อนำลงปลูกในภาชนะแล้วควรรดน้ำทุกวันเช้าและเย็น ประมาณ 50-60 วันหลังการเพาะเมล็ด สวิสชาร์ดเป็นพืชตระกลูเดียวกับบีทรูท รับประทานส่วนของใบและก้าน ลักษณะของใบหยิกเป็นคลื่น ก้านใบมีขนาดใหญ่และแบน มีหลากหลายสีตามแต่ชนิดและสายพันธุ์ เช่น สีเหลือง สีขาว สีเขียว และสีแดง เป็น ต้น เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีวิตามินเคสูงด้วย รสชาติคล้ายผักโขม หากเก็บเกี่ยวแล้วนำมาบริโภคตอนที่ลำต้นยังอ่อน สามารถรับประทานได้ทั้งต้นและใบ ซึ่งพบเห็นมากในส่วนผสมผักสลัด เนื่องจากมีสีสันที่สวยงามและใบอ่อนทานง่าย หากปล่อยให้ลำต้นโตก้านใบจะหนาขึ้นและใบใหญ่สีเข้มเขียว ก่อนเก็บเกี่ยว ต้องทำให้สุกก่อนรับประทาน สามารถปลูกเป็นไม้ประดับได้ เพราะก้านมีสีสันสวยงาม เนื่องจากเป็นผักเมืองหนาว จึงมีการนำมาปลูกมากในปัจจุบันทางตอนเหนือของประเทศไทย จะมีผลผลิตสูงที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายนของทุกปี สวิสชาร์ดไม่สามารถนำไปบรรจุในกระป๋องได้ แต่สามารถนำไปแช่แข็งซึ่งอยู่ได้เป็นปี โดยล้างสวิสชาร์ดและลวกในน้ำเดือดประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนำมาช็อกน้ำเย็นในอ่างใส่น้ำแข็ง แล้วรีดน้ำออกและใส่ลงไปในถุงที่มีซิปล็อกโดยไม่ให้มีช่องว่างเพื่อให้อากาศเล็ดลอดเข้าไป แล้วค่อยใส่เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง สำหรับสวิสชาร์ดที่มีก้านสีแดงจะมีผลต่อการเปลี่ยนสีอาหารอื่นๆ ที่ปรุงพร้อมกันด้วย…. อ่านต่อที่ : ที่มา: https://www.dailynews.co.th/agriculture/609985
[fbcomments url="https://parichfertilizer.com/en/knowledge/%e0%b8%aa%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%aa%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%94-%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%87%e0%b9%88/" width="375" count="off" num="3" title="Comments" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save